วันอังคารที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

Knowing ตามสูตรเกินไปมั้ย

ผู้กำกับ: Alex Proyas
บท: Alex Proyas, Ryne Douglas Pearson, Juliet Snowden, Stiles White, Stuart Hazeldine
กำกับภาพ: Simon Duggan
นักแสดง: Nicolas Cage, Chandler Canterbury, Rose Byrne, Lara Robinson

หลังจากเมื่อคืนเจอภาพยนตร์แนะนำ Funny games จากเพียวเชลซีเข้าไปทำให้งงไปครึ่งวันบ่ายแก่ๆวันนี้เลยขอเพิ่มความมึนให้กับตัวเองโดยมาดูภาพยนตร์ที่กำลังขึ้นหิ้งอยู่บน Box office ของ US ที่ชื่อว่า Knowing ซึ่งนำแสดงโดยพระเอกหน้าตายเจ้าของรางวัลออสการ์นิคเคจหลายของปู่คอปโปล่าผู้กำกับ the Godfathers นั่นเอง

หนังเร่ิมต้นเมื่อ 50 ปีก่อนที่โรงเรียนประถมแห่งนึงในแมสซาจูเซ็ต(Massachusetts)ที่คุณครูประจำชั้นได้ให้เด็กๆวาดรูปสิ่งที่ตัวเองอยากจะบอกแก่คนในอนาคตจากนั้นจะเอาไปบรรจุลงไป Time capsule เพื่อบรรจุลงในพื้นหน้าโรงเรียนแล้วค่อยเปิดอีกทีในอีก 50 ปีให้หลัง แต่เด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ชื่อ Lucinda Embry เธอได้ทำอะไรที่มากกว่านั้นคือได้เขียนกลุ่มตัวเลขมากมายให้คุณครูได้นำไปบรรจุลงไปจากนั้นเธอก็หายตัวไปเมื่อคุณครูได้ตามหาก็เจอเธอกำลังเอานิ้วขูดประตูเพื่อบอกอะไรบางอย่างแก่คนในอนาคตและนี่ก็คือที่มาของเรื่อง จากนั้น 50 ปีก็ผ่านไปไวเหมือนโกหก John Koestler ศาสตราจารย์แห่ง MIT(Massachusetts Institute of Technology) และ Caleb ลูกชายต้องเข้ามาเกี่ยวข้องกับตัวเลขชุดนี้โดยบังเอิญ(หรือเปล่า) ซึ่งตัว John เองเชื่อว่า"ในโลกนี้ไม่มีคำว่าบังเอิญ"ทุกสิ่งถูกกำหนดไว้แล้วไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง แล้วหนังก็พาเราไปเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์หายนะต่างๆให้ชุ่มอกชุ่มใจไปจนจบเรื่อง

เรื่องนี้อยากจะบอกว่าได้อารมณ์หลากหลายมากจนไม่รู้ว่าจะบรรยายยังไงออกมาให้พอดีได้ เพราะว่าดูๆไปเหมือนนั่งดูหนังของนายมาโนชชยามาลาลผสมกับหนังแนวหายนะหลายต่อหลายเรื่องที่ผ่านๆมาแล้วเช่น Deep impact, Contact, The day after tomorrow etc.. บวกกับเอาความเชื่อทางศาสนามาเล่นด้วยทำให้ผมรู้สึกว่าบทมากเกินไปนิดๆยิ่งบทสรุปที่เหมือนกับว่าทำตามสูตรมากไปหรือเปล่าทำให้ตอนจบไม่ค่อยสวยนัก แต่สิ่งที่น่าชมก็คือ effect ครับแม้จะไม่ใช่ส่ิงแปลกใหม่เพราะเดี๋ยวนี้ CG ก้าวล้ำหน้ามาไกลพอสมควรแล้วแต่ว่ามุมมองในการนำ CG มาใช้ในเรื่องนี้ถือว่าค่อนข้างทำออกมาได้บีบคั้นและกดดันพอสมควร ขอชมผู้กำกับภาพ Simon Duggan ครับที่ทำภาพอุบัติภัยต่างๆในเรื่องดูน่ากลัวดีจริงๆเริ่มตั้งแต่ฉากเครื่องบินตกที่อยากบอกว่าคิดได้ไงถึงทำภาพได้น่ากลัวขนาดนั้น

โดยภาพรวมๆของหนังถือว่า Alex Proyas ทำหน้าที่ผู้กำกับได้ดีผมชอบผลงานของแกมาตั้งแต่ The Crow ในปี 2538 ส่วนในตอนหลังๆนี้งานของแกที่เข้าตาก็มี I, Robot ซึ่งถือว่าทำฉาก Action ได้เข้าท่ามากๆเรื่องนึง สำหรับเรื่องนี้ก็อีกเช่นกันฉากกดดันอารมณ์ถือว่าเยี่ยมแต่ก็ติดตรงที่บทอย่างท่ีบอกไว้จึงทำให้ประเด็นของเรื่องมีหลายประเด็นเกินไปจึงทำให้รู้สึกว่าหนังไม่สุดเลยซักด้าน ส่วนนักแสดงเริ่มตั้งแต่นิคเคจก็เล่นได้ตามมาตรฐาน(ของแก)เหมือนเดิมท่ายืนอ้าขากางแขนเล็กน้อยของแกทำให้แอบนึกถึง National treasures ขึ้นมาตะหงิดๆ ดาราเด็กสองคนที่เล่นก็โอเคคนอื่นก็เฉลี่ยๆไปตามบทที่ได้รับ เรื่องนี้ไม่มีตัวดาราคนไหนเล่นได้แบบน่าจดจำเป็นพิเศษเลยยกเว้น CG(บางฉาก)กับน้องพระเอก Nadia Townsend แม้จะโผล่มาบางฉากแต่ก็น่ารักดี

ข้อคิดจากเรื่อง: อดีตแม้เราจะทำอะไรกับมันไม่ได้แต่"อนาคตนั้นเรากำหนดได้" ไม่มีใครทำนายอนาคตได้ถูกต้อง 100% เพราะตราบใดเหตุการณ์ยังไม่เกิดขึ้น"เรา"เปลื่ยนแปลงมันได้เสมอเพียงแต่จะเปลี่ยนไปในทางที่ดีหรือไม่เท่านั้นเองดังนั้นวางแผนให้ดีละกันนะก่อนจะก้าวเดินออกบ้านไป

K n o w i n g " w h a t t o d o " i s e v e r y t h i n g . . .

ขอให้มีความสุขกับการดูหนังฟังเพลงครับ Rolling Eyes

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ติดตาม