วันอังคารที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

No Country for Old Man

ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่มีอะไรจะพูดที่มากไปกว่าที่ว่ามัน"ลึก"ครับ ลึกมากจนคนธรรมดาแบบเราๆ เข้าถึงได้ยากพอสมควรในเรื่องของการตีความสัญลักษณ์ที่มีอยู่ในเรื่องและบทพูดที่คนเขียนบทคงจะคิดว่า "เออ บทแบบนี้นี่แหละเจ๋ง เขียนไปแบบนี้กูได้ Oscar ชัวร์เพราะว่ากรรมการดูจบแล้วคงจะงง พองงแล้วเดี๋ยวก็ให้รางวัลเราเองแหละ" อันนี้คงต้องไปถามคนเขียนบทแล้วพี่ว่าบทพูดของลุงทอมก่อนจบเรื่องนี้เค้าหมายความว่าไง เพราะว่าคนล้านแปดแสนสามหมื่นกับอีกห้าสิบสองคนที่เข้าไปดู(หุหุหุ ข้อมูลแน่นดีป่ะพี่ มั่วแบบแน่นๆ นะ)ออกโรงมาก็คงจะงงพอๆ กับคณะกรรมการนั่นแหละ แต่ก็คงกลัวคนอื่นจะหาว่าเราไม่เจ๋งเลยต้องพูดออกมาในทำนองที่ว่า "เออ เจ๋งจริงแฮะเรื่องนี้" ทั้งหมดนี้ผมล้อเล่นนะ หุหุหุ Laughing

การตีความหมายของหนังนี่คงแล้วแต่ประสบการณ์และก็ความอ้าตต(เสียงประมาณพี่โน้ตเดี่ยวฯ)ของคนตีความครับ ไม่สำคัญหรอกว่าใครจะคิดยังไงหรือคนเขียนบทจะบอกอะไรกับเรา ของเพียงเราดูแล้ว"ได้"หลังจากเสียตังค์เข้าไปดู ส่วนจะได้อะไรก็อีกเรื่องนึงนะครับ หุหุหุ

สำหรับเรื่องนี้สิ่งที่ผม"ได้"ก็คือ"ปม"อันเกิดมาจากการเลี้ยงดูของพ่อแม่และผู้ปกครองที่ทิ้งไว้ให้กับเด็กครับ แม้ว่าเค้าจะโตเป็นผู้ใหญ่ไปแล้วหรือแม้แต่จะแก่จะเข้าโรงอยู่รอมร่อแต่ปมที่มีอยู่ในใจก็ยังคงวนเวียนอยู่ไม่ไปไหน เด็กโตมาจะเป็นคนแบบไหนผู้ปกครองนั่นแหละที่เป็นคนสร้างขึ้นมาเองด้วยหนึ่งสมองและสองมือของท่านครับ

ตัวละครของ Javier Bardem ที่ชื่อว่า Anton Chigurh นี่ก็โรคจิตแท้ๆ ครับท่าน ผมว่าคงติดอันดับโรคจิตหนึ่งในสิบตลอดกาลของของ Hollywood แน่เลยหละ บทโหดคอดๆ แต่ชื่อก็หวานคอดๆ เหมือนกันคนบ้าอะไรชื่อน้ำตาล หุหุ ตัวนี้ก็มี"ปม"อยู่ในใจที่ไม่กล้าจะแสดงความรู้สึกและความต้องการของตนเองออกมาให้คนอื่นได้รับรู้ แต่พอพึงเวลาที่พอเหมาะเขาก็จะแสดงออกมาโดยที่ไม่ได้รู้สึกรู้สมอะไรเลยว่าคนอื่นจะได้รับผลอย่างไร ในที่นี้ผลที่คนอื่นได้รับก็คือความตายนั่นเอง บางทีก็ดูเหมือนว่าเค้าจะให้คนอื่นได้เลือกบ้างเหมือนกันนะโดยที่เค้าจะให้โยนเหรียญเป็นทางรอดหากว่าทายถูก แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ ตัวChigurhเองมีคำตอบอยู่แล้วว่าต้องการจะทำอะไรกับเหยื่อคนนั้น จะฆ่าหรือว่าจะปล่อย เหมือนกับที่เหยื่อคนนึงบอกกับตัว Chigurh ว่า "เหริยญมันไม่ได้ให้คำตอบหรอก แต่เป็นตัวคุณนั่นแหละ"

คนที่มีลักษณะแบบนี้นั้นมีปมในใจที่ติดมาจากผู้ปกครองแน่ๆ ครับแต่ปมนั้นจะเป็นอะไรนี่ไม่ทราบเหมือนกันแต่นี่แหละครับความลึกของบทที่ทำให้เรื่องนี้ได้ Oscar มาครองตั้งหลายตัวแน่ะ ความลึกที่ว่านี้คือมิติของตัวละครว่ามีปูมหลังมายังไงทำไมถึงได้โรคจิตคอดๆ แบบนี้ ในเรื่องนี้ไม่ได้บอกที่มาให้รู้ครับผมเลยต้องเดาเอาเอง หุหุหุ

ส่วนตัวละครของลุงทอมเรานี่ที่ชื่อว่า Ed Tom Bell กับบทพูดปิดท้ายเรื่องที่พล่ามไปเรื่อยถึงความฝันที่มีภาพของ"พ่อ"ในวัยหนุ่มที่อยู่ในนั้น ภาพของพ่อในฝันคือภาพที่อยู่ในจิตใต้สำนึกอันเกิดมาจากความประทับใจว่าพ่อจะอยู่ช่วยแกเสมอทุกครั้งในยามที่แกต้องการ ภาพของพ่อนี้คือ"ปม"ดีที่อยู่ในใจแก และตอนนี้แกกำลังต้องการให้พ่อช่วยให้พ้นจากสิ่งค้างคาในใจของแกส่วนจะค้างอะไรนั้นหากใครยังไม่ได้ดูลองไปหามาดูครับ แกคงรู้สึกว่าคนแก่ๆ แบบแกนั้นไม่เป็นที่ต้องการของคนอื่นแล้วแม้แต่พ่อที่เคยช่วยแกมาตลอดยังไม่ช่วยแกเลยอะไรประมาณนี้ นี่ก็คงเป็นที่มาของชื่อเรื่องที่ว่า No Country for Old Men ลุงทอมแกคงเซ็งชีวิตเต็มทน ดูจากสีหน้าและแววตาของแกในตอนจบได้ครับ เฮ้อ น่าเห็นใจ

พอดูหนังเรื่องนี้จบสิ่งที่ผมได้ก็คือ"ปม"ดีจากพ่อของ Ed Tom Bell ที่มาจากบทพูดส่งท้ายในหนังและ"ปม"ด้อยของ Anton Chigurh ที่มาจากผู้ปกครองที่เลี้ยงมาอย่างดีมากๆ จนทำให้พี่แกมีทรงผมที่เท่ห์คอดๆ และโรคจิตได้สุดยิดขนาดนี้ หุหุหุ Laughing

ขอให้มีความสุขกับการดูหนังและฟังเพลงครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ติดตาม