วันอังคารที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

Slumdog Millionaire: ชะตาฟ้าลิขิต..หรือ?

ผู้กำกับ: Danny Boyle, Loveleen Tandan(co-director: India)
บทภาพยนต์: Simon Beaufoy
จากวรรณกรรมที่ชื่อว่า Q & A ของ: Vikas Swarup
นักแสดง: Dev Patel, Freida Pinto, Ayush Mahesh Khedekar, Azharuddin Mohammed Ismail, Tanay Chheda, Ashutosh Lobo Gajiwala, Tanvi Ganesh Lonkar, Rubiana Ali
เพลงและสกอร์: A.R. Rahman

อาทิตย์ก่อนเมื่อได้ทราบผลรางวัล Oscars มีภาพยนตร์เรื่องหนึ่งกวาดรางวัลไป 8 สาขาได้แก่

Best Motion Picture of the Year
Best Achievement in Directing
Best Achievement in Cinematography
Best Achievement in Editing
Best Achievement in Music Written for Motion Pictures, Original Score
Best Achievement in Music Written for Motion Pictures, Original Song <-- ถูกเสนอเข้าชิงสองเพลง
Best Achievement in Sound
Best Writing, Screenplay Based on Material Previously Produced or Published

ก็เลยคิดว่าภาพยนตร์เรื่องนี้คงไม่ธรรมดาแน่ๆแต่อีกใจก็นึกสงสัยว่าหนังแขก(แต่คนอังกฤษกำกับ)จาก Mumbai หรือ Bombay ที่รู้จักกันไปทั่วโลกว่านี่คือ Bollywood เมืองที่แม้แต่ Hollywood ยังอายเพราะมีหนังใหม่ให้ดูกันวันละสามเรื่องเป็นอย่างน้อยและประชากรในเมืองเป็นดารากันเกือบทั้งเมืองนั้นนี้มี"ดี"ตรงไหน? คำตอบที่ได้ไม่ใช่มีดีที่ซุปแต่ว่ามันมีมากกว่านั้นคือว่ามันมี"วิญญาณ"อยู่ในนั้นครับ



Slumdog Millionaire มีวิญญาณของอินเดียอยู่ในทุกองค์ประกอบไล่ตั้งแต่นักแสดงที่เล่นได้สมจริงดีมากทุกคนโดยเฉพาะ Ayush Mahesh Khedekar กับ Rubiana Ali ที่เล่นเป็นจามาลและลาติก้าตอนเด็กทั้งสองคนนี้รับบทเด็กสลัมได้เป็นธรรมชาติดี ภาพที่โลดแล่นให้ได้ดูบนจอหาก Capture เป็นภาพน่ิงแล้วนี่ทิ้งไม่ได้เลยครับเพราะภาพดูมีชีวิตมากๆ

บทภาพยนตร์ที่นำมาจากหนังสือชื่อ Q & A ที่นำเอาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงๆในประเทศอินเดียมาผูกเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจ Theme ของเรื่องที่ค่อนข้างชัดเจน มีโยนสลับไปมาระหว่างเกมส์โชว์และชีวิตจริงของจามาลไหลรื่นและมีลูกเล่นจนเดาเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นต่อไปได้ยากจึงทำให้ภาพยนตร์มีความน่าสนใจและน่าติดตาม เพลงประกอบของ A.R. Rahman เป็นส่วนหนึ่งที่น่าชมเชยเป็นอย่างยิ่งครับ Score ที่แต่งขึ้นมาใหม่เป็นส่วนผสมที่ลงตัวดีระหว่างเพลงพื้นเมืองของอินเดียกับ beat สมัยใหม่ไม่ว่าจะเป็นเพลงที่มีจังหวะสนุกหรือเพลงช้าที่เป็น theme ของพระเอกนางเอกที่ฟังแล้วได้อารมณ์สดชื่นมากโดยเฉพาะเพลงปิดเรื่องที่ชื่อว่า "Jai yo" หรือว่าไชโยในภาษาไทยเราที่ขึ้นมาได้จังหวะพอดีและลงตัวอย่างสุดๆ




หากใครอยากจะดูหนังที่หนักแต่เล่าแบบสบายๆ เปิดเรื่องได้น่าสนใจ ดำเนินเรื่องได้น่าติดตาม พร้อมทั้งบทสรุปในตอนท้ายที่ลงตัวทั้งจังหวะและเรื่องราวแล้วละก็ไม่น่าพลาดครับสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ Slumdog Millionaire แล้วคุณจะชอบเหมือนผม หากมีคะแนนเต็มสิบเรื่องนี้ผมให้สิบเอ็ด


D : D E S T I N Y เ ร า นี้ เ อ ง ที่ ลิ ขิ ต

ขอให้มีความสุขกับการดูหนังและฟังเพลงครับ Rolling Eyes

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ติดตาม