[Test Report] W5K+ Stefan AudioArt Equinox cable

เกริ่น: การ DIY Modify หรือเปลี่ยนสายมีคู่กับวงการเครื่องเสียงมาตั้งแต่ต้นเลยทำให้เกิดมีของดีมาให้เราได้ใช้กันในทุกวันนี้ นักพัฒนาและนักบุกเบิกหลายต่อหลายท่านกว่าจะได้ผลงานออกมาก็ต้องลองผิดลองถูกทำออกมาแบ่งๆ กันใช้ในกลุ่มจนได้รับการยอมรับในวงกว้างและท้ายที่สุดก็กลายมาเป็นสายการผลิตทำเป็น Mass product ออกมาวางตามร้านเครื่องไฟฟ้าทั่วไป เมื่อมีการผลิตออกมาวางขายก็ต้องมีลูกค้าเข้ามาซื้อซึ่งจะซื้อไปทำอะไรก็แล้วแต่เถอะ ส่วนใหญ่ก็ซื้อเอาไปใช้ฟังเฉยๆ ตามที่ผู้ผลิตเค้าต้องการแต่ก็มีบางส่วนที่รักสนุกชอบถอดนั่นแกะนี่ลองเสริมเติมแต่งสินค้าที่เค้าทำออกมาดีๆ ให้ดียิ่งขึ้นไปหรือว่าห่วยกว่าเดิม(ในบางครั้ง)เช่นผมเป็นต้น แต่ก็ถือว่าสิ่งที่ทำเป็นเป็นการบริหารสมองและบางครั้งก็เป็นการฝึกซ้อมการบริหารความเสี่ยงเบื้องต้นไปในขณะเดียวกันเนื่องจากว่าอาจเกิดการลัดวงจรทำให้อุปกรณ์เสียหายได้เป็นปกติ สิ่งที่ทำได้ง่ายที่สุดในการนี้ก็คือการเปลี่ยนสายหรือเรียกให้โก้เป็นภาษาประกิตว่า Re-wiring ภายในเครื่องนั่นเอง ผมชอบมากเพราะทำได้ง่ายเสี่ยงน้อยแถมลงทุนไม่มากนักโดยหาสายนั่นนี่ที่กองๆ อยู่ในห้องมาตัดมาบัดกรีเข้าแทนของเดิมในเครื่องเท่านั้นเอง สายที่ใช้ก็มีตัั้งแต่สายสัญญาณ,สายลำโพง,สายไฟรวมไปถึงลวดโลหะขนาดและชนิดต่างๆ ซึ่งก็ให้ผลออกมาหลายอย่างมีห่วยมากห่วยน้อยหรือบางทีก็ดีคอด เท่าที่ผมพอสรุปได้จากประสบการณ์คือว่า สายทองแดงแกนเดียวขนาดไม่โตนักหากนำมาต่อเป็นสายสัญญาณก็ให้เนื้อของเสียงเบสเพิ่มมาอีกนิด สายฝอยก็ให้เสียงแหลมใสเจือรายละเอียดระยิบ(หากตัวนำดี) สายทองแดงแกนเดี่ยวเส้นโตให้เบสที่ใหญ่แต่หนืดไดนามิกหาย สายเงินไดนามิคเพิ่มแต่ในบางซิสเต็มทำให้เสียงบางและจัดมากเกินไป บางทีเอามาผสมกันระหว่างสายแกนเดี่ยวกับสายฝอยสายทองแดงกับเงินก็ให้เสียงออกมาอีกแบบซึ่งผมจะไม่ขอลงในรายละเอียดมากนักเพราะว่ามันยุ่งและวุ่นวายพอควรที่จะอธิบายในเชิงเทคนิค อีกอย่างก็เพราะว่าบางทีในเชิงทฤษฎีเสียงของมันน่าจะเมพแต่กลับให้ผลออกมาตรงกันข้าม เอาเป็นว่าหากไม่ได้มีความรู้ทางด้านนี้ก็ใช้ๆ ที่เค้าทำมาให้เถอะครับสบายใจดีแถมไม่เสี่ยงด้วย หุหุหุ บทนำ: ทีนี้ก็มาถึงเรื่องของเราในวันนี้เลยละกันครับ ตัดเรื่องราวของวงจรอันซับซ้อนของตัวขยายหรือว่าแอมปลิฟายเอ่อะออกไปซะเหลือแต่เพียงการเปลี่ยนสายหรือรีไวร์ริ่งในกรณีของหูฟังเรียกว่า Re-cable เท่านั้นเพราะเราใช้หูฟังเป็นหลักจะเปลี่ยนไดร์เวอร์ที่เค้าให้มาก็ใช่ที่แต่จะเปลี่ยนก็ได้นะครับเห็นมีทำอยู่บ้างเหมือนกันในกลุ่มนักเล่นระดับเทพ หากใครใช้หูตระกูล Senn ก็ถือว่าท่านโชคดีที่ว่ามีสายออกมาให้ท่านได้ลองเปลีี่ยนเยอะเลยแถมทำได้ง่ายมากมายและก็มีหลายระดับราคาตั้งแต่ไม่แพงมากไปจนถึงราคาไม่ถูกเป็นอย่างมากให้เลือกใช้ก็ดูเอาตามสมควรละกันครับ มีน้องคนนึงเอาสายจากจีนมาให้ผมลองขออภัยที่จำยี่ห้อไม่ได้ราคาประมาณ 2 พันบาทเมื่อต่อเข้ากับ HD650 ก็ให้เสียงที่น่าพอใจเหมือนกัน แต่ผมจะชอบหรือไม่นั้นไม่สำคัญขอเพียงเจ้าของเค้าชอบก็โอแล้วแหละ ส่วนสายยีห้อไหนให้เสียงออกมายังไงก็ลองหาอ่านดูในกระทู้เก่าๆ นะครับมีมากพอสมควรเลยแหละหรือว่าจะหาอ่านใน Head-fi ก็ยิ่งมีเยอะเข้าไปใหญ่ งานนี้ต้องขอบคุณคุณค. อีกแล้วครับท่านที่กรุณามอบ W5K+Equinox XLR cable มาให้ผมได้ลองฟังดู ใจถึงจริงๆ เลยครับเอาของให้ผมมาลองฟังเล่นๆ แต่เอาจริงตั้งหลายชิ้นหากผมไม่คืนจะเป็นไงน้อ อีกคนช่วยชี้เป้าและแนะนำให้ได้ลองของดีคือคุณ WindowsX นั่นเอง ขอบคุณมากครับ System ที่ใช้: ก็ System คนจนชุดเดิมครับดูใน Rig ด้านล่างก็ได้ว่ามีอะไรมั่ง จะสรุปสั้นๆ ก่อนละกันนะครับเพื่อไม่ให้เสียเวลาสำหรับใครที่ไม่รู้จักนางไม้นางนี้มาก่อนในฐานะที่เป็นผู้ครอบครอง W5K คนหนึ่งอยากบอกว่าหูฟังตัวนี้เด่นในเรื่องความหวานพริ้วของเสียงกลางไปถึงเสียงแหลม เวทีเสียงที่กว้างและให้รายละเอียดดีมาก เวทีเสียง บรรยากาศ มิติ ความเป็นดนตรีและการนำเสนอ: เมื่อฟังเทียบกับ W5K แบบเดิมๆ เหมือนว่าเวทีเสียงด้านกว้างจะแคบลงมาบ้างเพราะว่าขนาดของอิมเมจใหญ่ขึ้น เวทีเสียงด้านกว้างมากกว่า L3K นิดๆ เวทีเสียงที่เดิมเคยถอยไปด้านหลังถูกดึงออกมาด้านหน้ามากขึ้นแต่ไม่ได้มากจนอึดอัดนะครับเพียงแต่ว่า W5K เดิมๆ เวทีเสียงถอยหลังไปมากกว่าแค่นั้นเอง การนำเสนอทำได้ดีครับฟังเพลงสนุกมากขึ้นด้วยไดนามิคที่เพิ่มขึ้นขาร็อคและ Classic น่าจะพอใจกับสิ่งที่ Equinox เพิ่มให้กับ W5K ความเป็นดนตรีมีเพิ่มขึ้นสำหรับบางแนวเช่น Classic Rock และเพลงพวกที่ใช้เครื่องสังเคราะห์ สำหรับเพลงร้องและเพลงที่มีเครื่องดนตรีไม่มากชิ้นนักผมชอบเสียงแบบเดิมๆ มากกว่า มิตินี่ด้านกว้างสู้ของเดิมไม่ได้แต่ว่าด้านลึกดีขึ้นครับแม้ว่าจะดีได้ไม่เท่ากับ L3K แต่ว่าทำให้ฟังเพลง Classic วงใหญ่ได้มีรสชาติเลยแหละความเป็นตัว U ของเวทีเสียงมีมากขึ้นจากเดิมที่เป็นคล้ายๆ ตัว V บรรยากาศและอากาศรอบตัวโน้ตดีและมีมากขึ้นเมื่อเทียบกับของเดิมส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะขั้วต่อเป็น Balanced รายละเอียดก็เพิ่มขึ้นด้วยเพราะความชัดเจนที่เพิ่มขึ้นนั่นเอง เสียงกลาง: ตรงนี้ดีขึ้นครับในแง่ของความอิ่มและมวลที่เพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากความถี่ต่ำด้านบนหรือ Upper bass ที่ถูกยกจนล้นเข้ามาถึงช่วงของเสียงกลางเมี่อฟังเทีียบกับของเดิม แต่ว่าหากเทียบกับ L3K เหมือนว่าจะด้อยกว่าในเรื่องของความอิ่มและมวลของเสียง เสียงสูง: เสียงสูงในตอนปลายฟังแล้วไม่เพิ่มขึ้นแต่ว่าในช่วงประมาณ 2k Hz เหมือนว่าถูกยกทำให้เสียง Hat ที่ถูกตีลงไปชัดเจนเป็นตัวตน ความพริ้วเหมือนว่าจะไม่มากนักเมื่อเทียบกับของเดิมแต่พอมานั่งฟังแบบพิเคราะห์แล้วเสียงพบว่าตอนปลายจริงๆ ไม่ได้น้อยลงเพียงแต่ว่าเสียงสูงในช่วงตำ่และกลางถูกยกและตรงนี้ก็มีส่วนทำให้เสียงตัว ซ.. หรือลมที่พ่นออกปากมาที่ฝรั่งเรียกว่า Sibilant ถูกเน้นให้ได้ยินชัดมากขึ้นทำให้ความต่างระหว่างเสียงแหลมตอนต้นแหละปลายดูไม่ต่างกันมากนักเพราะความสวิงของเสียงลดลง เหมือนกราฟที่เป็นเส้นโค้งลดลงเป็นเส้นตรงทำให้เสียงสูง Flat มากขึ้น เสียงต่ำ: ต่ำลึกลงได้มากขึ้นจนรับรู้ได้ โน้ตเสียงต่ำถูกเน้นให้ชัดเจนทำให้เสียงตำ่กระชับ แต่ว่าในช่วงกลางๆ น้อยไปพอควรเลยทำให้ Impact มีน้อยกว่า W5K ของเดิมที่มีความต่อเนื่องของช่วงความถี่ต่ำช่วงกลางและสูงมากกว่า สรุป: สายหูฟังที่เปลี่ยนแทนของเดิมนั้นควรจะเสริมและเติมในส่วนที่หูฟังตัวนั้นขาดโดยที่ไม่เปลี่ยนแปลงบุคลิกของหู ไม่ควรให้เสียงออกมาจัดจ้านหรือขุ่นมัวมากขึ้น การที่ได้ลองฟัง W5K พร้อมสาย ​Equinox ในครั้งนี้ผมคงพูดได้สั้นๆ ว่า Equinox ไม่ได้เปลี่ยนบุคลิกโดยรวมของ W5K แต่แน่นอนว่าเมื่อเปลี่ยนสายต้องมีการเปลี่ยนแปลงของเสียงที่ออกมาอยู่แล้ว Equinox ทำให้เสียงออกมาชัดเจนมากขึ้นครับโดยเฉพาะแหลมตอนต้นแหละกลางที่เด่นออกมาทำให้เสียงแหลมของ W5K Flat และถูกต้องขึ้นในขณะเดียวกันเลยเน้นเสียง ซ.. ปลายเสียงไปด้วย เสียงกลางอิ่มและเป็นตัวตนเพิ่มขึ้นเพราะเบสช่วงบนถูกยกขึ้นมา เสียงเบสตอนกลางน้อยไปหน่อยทำให้มวลของเสียงเบสมีน้อยลงแต่ได้ความชัดเจนของตัวโน้ตและความกระชับเข้ามาแทน เบสในช่วงล่างลงได้ลึกมากขึ้น เวทีเสียงแคบลงเพราะอิมเมจที่ใหญ่ขึ้นทำให้ได้เงาๆ ของ L3K มาบ้างนิดๆ เสียงก้องๆ โหวงๆ ที่ W5K เคยมีลดน้อยลงครับเหมือนว่า Equinox ได้เพิ่มมวลให้กับเสียงโดยรวมที่ออกมาแต่ว่าก็ทำให้ความพริ้วที่เคยมีของ W5K ลดลงบ้างเหมือนกัน ไดนามิคเพิ่มขึ้นทำให้ร็อคได้มันส์ขึ้นเหมือนกัน มีไมโครโฟนิคติดมาบ้างเล็กน้อย ที่ผมพอจะบอกได้ ณ. ตรงนี้ก็คือว่า W5K+Equinox cable เข้ากันได้ค่อนข้างดีครับและจะดีมากขึ้นอีกหากคุณใช้แอมป์หลอดอยู่ ในการทดสอบครั้งนี้ขอให้รู้ว่าสาย Equinox ที่ผมลองนี้เป็น Balanced นะครับหากเป็น Single ended ผมว่าความต่อเนื่องของเสียงโดยรวมน่าจะดีกว่านี้เพราะว่าระบบ Balanced เน้นให้เสียงชัดมากอยู่แล้วและโดยบุคลิกเสียงของ W5K ที่ค่อนข้างเปิดด้วยเลยทำให้ได้ผลออกมาอย่างที่ผมเขียนไว้ในเบื้องต้น แต่ยังไงก็ตามหากผมจะเปลี่ยนสายหูของผมที่มีอยู่นี้ Equinox เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ของผมเลยละครับเพราะเสียงมีความถูกต้องมากขึ้นแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าถูกต้องจะถูกใจคนทั่วไปนะ ทั้งหมดนี้เป็นความเห็นส่วนตัวทั้งสิ้นโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน เด็กและเยาวชนผู้ปกครองควรพิจารณา ขอให้มีความสุขกับการฟังเพลงนะครับ [Newbie's Impression Thread] ATH W5000+Stefan Audio Art Equinox XLR Headphone Cable My impression about W5K are its liquid midrange, clarity and detailed, it also has sharp high and hollow sound as the cons but I still like its with my female CDs collection. Last week according to WindowsX suggestions, my good friend peeradonn re-cabled his W5K with Stefan Audio Art Equinox XLR, he told me that the cans sound superb on his Rudistor RP010B MKII and want my opinion on the cans with my stock W5K in my home system so I decided to have my listening session with it, of course this's not a fairs play, balanced vs single ended but I still want to know the differences between these two and finally came out this thread. System: Cans: ATH L3K, W5K, W5K+Equinox XLR cable[ peeradonn's ] CD: C.E.C. TL51XR PC: Mac mini DAC: Bel canto Dac3 Amp: RSA The Apache Cables: Cardas Golden Reference interconnect XLR, Kimber Kable AGDL Digital XLR, Kimber B-Bus USB, Kimber PK10 power cords. As far as I knew the wrong cable would change sound signature of the cans, on the other hand the cans could shines to show its full potentials with synergy cable. After hours of listening to stock W5K and re-cabled W5K in comparison both connected to Ray Samuel Audio the Apache, apparently I'd say the Equinox XLR on W5K could draw the sound out of the drivers as its should be, then had me this results: Bass: Getting tighter, emphasized the notes, improving the upper bass. Midrange: Fuller, smoother and I could notice some sibilant sound. Treble: More accurate, extended, less sharp and silkier Soundstage: Wider, more air around the instruments. Tonality: Well controlled and smoother than the stock one. Image: Precise, weights up the hollow sound and bigger. Detail: Better and clearer. Soundstage: A bit narrow than the stock W5K but I think it's more like the soundstage of L3K, interesting. Dynamic: Faster so I could enjoy myself more on rocks. Honestly, IMO for some genres like pop and chamber music balanced termination is a bit too well presented, single ended sound more musical. Comparing with my L3K: The L3K is the Flagship of ATH line of products with good tonal balance, punchy bass, full mid and as a newbie here I wanna say it's one of the best all around cans that I ever listen to. After my listening hours I'm impressed with the sound I heard, I used to listen to W5K and L3K frequently L3K won hands down on low frequency, fuller midrange and "you're there" feeling. This time re-cabled W5K breathe to its neck on the midrange but still need some work on the low area though. Tweak W5K excels L3K by it's wider soundstage and clarity as always but this time I felt more impressed with the results. Overall, L3K obviously still has the advantage over W5K but the re-cabled W5k come closer to its predecessor than the stock one. Conclusions: For those who satisfied with W5K on the system but still need some more out of your cans, Stefan's Equinox cable is one of many choices that you ought to consider IMO it's synergy with W5K. Thanks WindowsX for your advice on this W5K recabling tweak, appreciated. Warning: Recabling procedure could damage your drivers, it's your own risk, lets the experienced technician do the job. Thanks for reading this far, enjoy your listening