วันอาทิตย์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

สัญชาตินั้นสำคัญไฉนหนอ..

ช่วงนี้เจอแต่คนเอาเรื่องสัญชาติมาพูดซึ่งจะว่าไปถ้าใครที่ไม่ได้มีโอกาสต้องเดินทางไปทำธุรกิจหรือว่าไปทำงานที่ต่างประเทศก็คงไม่ค่อยจะรู้เรื่องอะไรเท่าไหร่แต่ในวงสังคมระดับสูงแล้วละก็เรื่องนี้เท่าที่ทราบมาก็เป็นเรื่องที่ทำกันจนเป็นปกติยิ่งครอบครัวใดที่พ่อแม่ได้เรียนจบมาจากต่างประเทศแล้วเรื่องนี้เป็นเรื่องที่นิยมทำกันมากก็คือให้ลูกไปเกิดที่ต่างประเทศเพื่อให้ได้สัญชาติของประเทศนั้นๆ ส่วนมากก็มักจะเป็นประเทศที่มีความเจริญในระดับที่เป็นที่ยอมรับกันเช่นอเมริกา อังกฤษ ออสเตรเลีย และอื่นๆ ซึ่งผมก็เห็นเค้าทำกันอย่างนี้เป็นปกติเพราะว่าเด็กคนนั้นจะได้เปรียบเด็กคนอื่นๆ เป็นจำนวนมากด้วยเหตุผลต่างๆ นาๆ ขึ้นอยู่กับ"พื้นฐานความรู้ความคิดและวิสัยทัศน์ของพ่อแม่เด็ก"เป็นหลัก..

ถามว่าเสียหายอะไรหรือไม่มองเผินๆ โดยทั่วไปก็ไม่น่าจะเสียหายอะไรเพราะมีช่องว่างทางสังคมและกฎหมายมีอยู่ในระดับหนึ่งที่ทำให้มีคนสองสัญชาติในบ้านนี้เมืองนี้อยู่เยอะแยะโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่อาศัยอยู่ในเขตติดต่อกับชายแดนประเทศเพื่อนบ้านซึ่งกลุ่มคนพวกนี้เป็นกลุ่มคนที่ทำให้เกิดปัญหาหลายๆ เรื่องตามแนวตะเข็บชายแดนจนช่วงปีหลังๆ มานี้ทางรัฐบาลบังคับให้บุคคลเหล่านั้นต้อง"เลือก"ที่จะเอาสัญชาติใดสัญชาติหนึ่งเพียงเท่านั้นด้วยเหตุผลทางด้านความมั่นคงของประเทศ

ตัวผมเองก็มีเพื่อนมีพี่มีคนรู้จักที่ถือสองสัญชาติอยู่หลายท่านเหมือนกันและแต่ละท่านก็น่ารักซึ่งเท่าที่ผมรู้บุคคลเหล่านี้เวลาเดินทางออกนอกประเทศก็จะ"เลือก"สัญชาติในการเดินทางในแต่ละครั้งที่แตกต่างกันตามแต่ผลประโยชน์ที่เค้าจำเป็นต้องไปติดต่อ ยกตัวอย่างว่าไปติดต่อธุระในประเทศแถบอเมริกาใต้ก็จะเลือกถือ passport ไทยเพราะยุ่งยากและเป็นที่เพ่งเล็งน้อยกว่าถือ passport อเมริกันเป็นต้น ดังนั้นหลักฐานในการเดินทางออกจากประเทศทั้งต้นทางและปลายทางมักจะตรงกันและแน่นอนจะมีหลักฐานในการเดินทางทั้งสองสัญชาติิอยู่ในมือขึ้นอยู่กับว่าจะ"เลือก"เอาหลักฐานการเดินทางของชาติไหนมาใช้แค่นั้นเอง

แต่ก็มีพี่บางคนก็เลือกที่จะถือสัญชาติเพียงหนึ่งเดียวเพราะลดความยุ่งยาก ซึ่งผมเคารพความคิดตรงนี้ของท่านมากๆ เนื่องจากว่าถ้าคุณตกลงใจเลือกแล้วว่าจะเป็นคนสัญชาติไหนไปแล้วก็ควรที่จะปฏิบัติตัวตามกฎกติกานานาชาติที่ตกลงกันไว้แต่ยังไงจิตวิญญาณไทยก็ยังคงอยู่และเชื้อชาติไทยนั้นก็เปลี่ยนแปลงไม่ได้ซึ่งผมถือว่าคนแบบนี้เป็นผู้ที่ยึดถือหลักการ เรียกได้ว่าเป็น"ผู้หลัก"เพราะมีหลักการและเป็น"ผู้ใหญ่"เพราะมีความคิดวิจารณญาณตรงตามอายุที่ผ่านมาของท่านเพราะไม่อย่างนั้นการเอาเปรียบทางสัญชาติทำให้เรากลายเป็นคน"เห็นแก่ได้และประโยชน์ส่วนตนมากกว่าความถูกต้อง" แต่คนที่ผมรู้จักก็เป็นเพียงแต่คนเดินดินหากินไปวันๆ ตามปกติของบุคคลทั่วไปเท่านั้นไม่ได้มีสิทธิพิเศษอะไรมากมายการตัดสินใจจะเลือกเป็นบุคคลสัญชาติไหนก็เป็นเรื่องส่วนตัวอยู่ในระดับครอบครัวซึ่งก็มีสิทธิในการดำรงชีวิตอยู่ในระดับนึงซึ่งไม่ขอก้าวก่ายแม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง ตรงกันข้ามกับบุคคลสาธารณะยิ่งเป็นบุคคลที่มีอำนาจการตัดสินใจที่กระทบต่อบุคคลในวงกว้างโดยเฉพาะเป็นกลุ่มบุคคลที่มีอำนาจในการบริหารประเทศเป็นคนที่สามารถตัดสินใจแทนบุคคลในประเทศนั้นๆ ได้ตรงนี้ที่ผมห่วง..

อาโนลด์ The คนเหล็ก เป็นผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียซึ่งเค้ามีสิทธิที่จะเป็นเพราะเป็นคนเชื้อชาติออสเตรีย(ไม่ใช่ออสเตรเลีย) สัญชาติอเมริกัน แต่ถ้าอดีตพี่บึ้กต้องการจะเป็นประธานาธิบดีของประเทศอเมริกาแล้วตรงนี้เป็นไปไม่ได้เพราะรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดไม่เอื้อ เนื่องจากว่าบุคคลที่จะเป็นประธานาธิบดีสหรัฐได้นอกจากถือสัญชาติอเมริกันแล้วยังต้องมีเชื้อชาติอเมริกันซึ่งก็น่าจะเป็นแบบนั้นเพราะถ้าคุณจะบริหารประเทศแล้วละก็คุณก็ต้องเป็นคนที่นั่นอย่างแท้จริง "ผู้นำจะเลือกแทงกั๊กหรือเหยียบเรือสองแคมไม่ได้" เพราะการตัดสินใจในระดับประเทศคุณจะกั๊กไม่ได้ ถ้าคุณเลือกจะแทงกั๊กคุณก็ไม่สมควรจะเป็นผู้นำประเทศเพราะเราไม่อาจจะเอาชีวิตของคนทั้งประเทศไปฝากกับบุคคลที่แม้จะเลือกว่าตัวเองจะเป็นคนสัญชาติอะไรเพียงสัญชาติเดียวยังทำไม่ได้แล้วจะให้ไปตัดสินใจเรื่องอะไร เพราะ"เรื่องของตัวเองยังสับสนตัวเองอยู่"

บุคคลที่จะเป็นผู้นำต้องกล้าตัดสินใจจะเลือกอะไรก็เลือกเอาซักทาง อย่าเอาช่องว่างเรื่องใบสมัครเป็นตัวแทนประชาชนหรือเอกสารการเดินทางมาอ้างเพราะคนที่เค้ารู้ว่าคุณเบี่ยงประเด็นนั้นยังมีอยู่ ไม่รู้สินะผมเห็นคนที่เบี่ยงประเด็นหลอกเด็กหลอกชาวบ้านหากินไปวันๆ แล้วต้องมาทำหน้าที่มาตัดสินใจแทนเราในสภาแล้วมันอนาถใจชอบกลว่า "พณฯ ท่านและคณะคิดว่าคนในบ้านนี้เมืองนี้"โง่"ขนาดนั้นเลยหรือ" ถ้าดูถูกประชาชนว่า"โง่"ขนาดนี้แล้วท่านและคณะจะพัฒนาและบริหารประเทศนี้ให้เดินไปข้างหน้าต่อไปได้อย่างไร ตอนนี้รับฟังข่าวสารรู้สึกว่าบ้านเราก้าวถอยหลังไปยังสมัยที่ผมยังเด็กที่ข่าวการปะทะกับประเทศเพื่อนบ้านมีให้ฟังรายวัน ถ้าบริหารแล้วบ้านเมืองถอยหลังไปสามสิบกว่าปี พณฯ ท่านน่าจะตัดสินใจอะไรซักอย่างกับชีวิตของพณฯ ท่านได้แล้วนะครับอย่าทำให้บ้านเมืองเสียหายไปมากกว่านี้ด้วยคุณวุฒิและวัยวุฒิที่ไม่สมฐานะของท่านอีกเลย จะเป็นผู้หลักก็ไม่ใช่ผู้ใหญ่ก็ไม่เชิงเหมือนเด็กเล่นขายของไปวันๆ เฮ้อ..


ผู้ติดตาม