ได้ดูภาพยนตร์เพลงอีกเรื่องที่ถือว่าทำได้ดีกว่าที่คิดไว้นิดนึงคือ Burlesque ที่พึ่งได้รับรางวัล Best Original Song จากเวทีลูกโลกทองคำมาจากนักร้องสาว(เหลือ)น้อยเสียงใหญ่ Cher ซึ่งห่างหายจากจอไปนาน จะว่าไป Cher เป็นนักร้องคนนึงที่มีฝีมือการแสดงในระดับที่ดีซึ่งจะว่าไปก็หายากอยู่เหมือนกัน มาเรื่องนี้ Cher ได้ประกบกับนักร้องสาวอายุคราวลูก Christina Aguilera ซึ่งก็พึ่งเห็นเธอแสดงหนังนี่แหละแต่ก็ถือว่าสอบผ่านแบบสบายๆ กับบทที่เธอได้รับซึ่งไม่ได้ต้องแสดงอารมณ์อะไรหลากหลายนักนอกจากร้องและเต้นตามรูปแบบของภาพยนตร์ประเภทนี้
สำหรับบทนั้นถ้าใครชื่นชอบภาพยนตร์แนวเดียวกับ Coyote Ugly(เป็นภาษาอินเดียนอ่านว่า ไคโยตี้ มิใช่ โคโยตี้)ซึ่ง plot ก็คือเด็กสาวบ้านนอกหนีเข้ามาในกรุงเพื่อไล่ตามฝันของตนส่วนเรื่องราวจะเป็นยังไงต่อก็คงจะเดาได้ไม่ยากส่วนตัวว่ามันคล้าย Coyote Ugly เกินงามไปนิดนึงทั้ง plot หลักและรองแต่ยกประโยชน์ให้จำเลยในส่วนของโปรดักชั่นซึ่งทำได้ดีนะในสายตาของผมทั้งฉากและเครื่องแต่งกายทำออกมาได้ครบเครื่องของการแสดงที่เรียกว่า Burlesque ซึ่งก็คือการแสดงลิปซิงก์ประกอบการเต้นในท่าทางที่ยั่วยวนและแต่งตัวโชว์เนื้อหนังนั่นเอง
เพลงประกอบเป็นสิ่งที่ผมชอบมากที่สุดของเรื่องเพลงดีมากทุกเพลงเลยก็ว่าได้ครับเปิดฟังกับหูฟังนี่ทำเอาเพลินลืมเวลาเลยทีเดียว เสียงที่อัดมาในหนังก็อัดมาดีมากขอชมทีมงานผสมเสียงของโซนี่ครับ เสียงต่ำแน่นลึกดี เสียงแอมเบี๊ยนในฉากของบาร์ก็สมจริงดีมากๆ โดยเฉพาะไฟในเพลงปิดเรื่องนี้ชอบจริงๆ จัดไฟง่ายมากๆ แต่คนเล่นไฟฝีมือไม่ธรรมดาทำให้ไฟธรรมดากลายเป็นไม่ธรรมดาได้ ส่วนเสียงร้องเพลงของสองเสือสาวแห่งวงการเพลงทั้งสาวใหญ่ Cher และสาวน้อย Christina Aguilera ถือได้ว่าร้องได้มาตรฐานอยู่แล้วทำให้ไม่แปลกใจที่สองเพลงจากทั้งสองท่านนี้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Best Original Song ของลูกโลกทองคำ
สรุป: ใครมีเวลาแล้วอยากดูหนังที่ไม่ต้องคิดอะไรมากนักเน้นฟังเพลงและดูไฟประกอบฉากประกอบที่จัดได้ดี พร้อมทั้งให้แง่คิดเล็กน้อยกับชีวิตที่น่าเบื่อนี้บ้างก็หามาดูเถอะครับไม่เสียดายตังค์แน่นอน
ส่วนที่ชอบจริงๆ ของบทในเรื่องนี้ก็คือความเป็น"นักสร้างโอกาสให้กับตัวเอง"(ไม่อยากเรียกว่าฉวยโอกาสเพราะจะกลายเป็นภาพในเชิงลบ)ของนางเอกนี่ประทับใจครับ ดูจบนึกถึงผู้ได้รับรางวัลโนเบลท่านนึงซึ่งก็คือ Muhamed ElBaradei ที่ไม่ยอมนั่งงอมืออมนิ้วเท้ารอโอกาสแต่รู้จักสร้างโอกาสให้กับชีวิตของตนจนเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์โลกคือได้รับรางวัลโนเบลในที่สุด และอีกหนึ่งบทบาทที่ท่านได้บินมาเข้าร่วมกับผู้ชุมนุมจำนวนหลายแสนหรืออาจจะเป็นเรือนล้านพลิกประวัติศาสตร์อียิปต์บ้านเกิดในไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ เพราะคำปราศรัยของเค้าผ่าน youtube ทำเอาคนรุ่นใหม่ออกมาเดิมร่วมกับเค้าที่จัตุรัส Tahrir จนเกินควรเกินคาดซึ่งทำให้เกิดสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าจะเกิดขึ้นได้เกิดขึ้นที่ประเทศอียิปต์
เพียงคนๆ นึงที่รู้จักสร้างโอกาสให้กับตนสามารถทำให้เกิดสิ่งยิ่งใหญ่ขึ้นได้ไม่เหมือนคนอีกจำนวนมากที่มักจะรอคนเอาโอกาสมาหยิบยื่นให้ ซึ่งรอให้ตายก็คงไม่มีใครมอบให้หรอกนอกจากจะสร้างขึ้นเอง...
ขอให้มีความสุขกับการดูหนังและฟังเพลงครับ
วันอังคารที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554
[ความประทับใจ] Burlesque หรือว่านี่คือ Coyote Ugly รีเมค
วันอาทิตย์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554
oops ปทาน
การฟังเพลงหรือว่าเล่นดนตรีเป็น"ศิลปะ"และเมื่อไหร่ก็ตามที่มีศิลปะเข้ามาเกี่ยวข้องเมื่อนั้นก็คงต้องยอมรับกันว่าเป็นเรื่องของ"อารมณ์" ข้อมูลหรือความแตกต่างทางเทคนิคต่างๆ ที่นำมาประกอบหรือเพิ่มให้กับอุปกรณ์ที่ใช้ในการสร้างอารมณ์บางครั้งก็มีเรื่องขออุปทานก็มีส่วนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
คหสต. ผมถือว่าอุปทานเป็นอุปกรณ์หลักอย่างหนึ่งในการเล่นเครื่องเสียงเพราะช่วย"สร้างหรือเพิ่ม"อารมณ์ในการฟังเพลงให้กับเราได้(บางครั้งช่วยเสริมให้ดีขึ้นได้เกินร้อยเปอร์เซ็นต์) หลายๆ ครั้งที่ฟังเพลง cover ถ้าอารมณ์ของคนร้องและเล่นได้ไม่ถึงกับอารมณ์ของเพลงทำให้งานดนตรีดีๆ ถึงขั้นวิบัติไปเลยก็มีเพราะร้องและเล่นกันไปตามเนื้อหรือโน๊ตในกระดาษไม่ได้ร้องออกมาจากใจ แม้จะร้องและเล่นได้ถูกต้องตรงกับที่พิมพ์ไว้เป๊ะๆ แต่ก็ไม่ถือว่าร้องและเล่นเพลงนั้นๆ ได้"ถูกต้องและตรง"ตาม"อารมณ์"ของผู้แต่ง ดังนั้นถ้าคนร้องคนเล่นสามารถเค้นความสามารถออกมาโดย"ร้องและเล่นออกมาด้วยใจ" หากผู้ฟังเปิดใจรับรู้รับทราบอารมณ์นั้นๆ ไว้ก็จะสามารถ"เข้าถึง"อารมณ์ของเพลงนั้นๆ ได้อย่างลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น...
เท่าที่ทราบในปัจจุบันนี้ยังไม่มีอุปกรณ์ตัวไหนวัดค่าความต่างทางอารมณ์ได้ดังนั้นผมก็คงต้องอาศัยอุปทานช่วยในการฟังเพลงต่อไป หิหิ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)