วันพุธที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ไอยคุปต์ในความทรงจำ part 3

ผู้นำเป็นตัวกำหนดทิศทางประเทศไม่ว่าจะเป็นด้านใดเพราะผู้นำคือต้นแบบ เป็นผู้ตัดสินใจกำหนดชะตาและทิศทางของประเทศว่าจะให้วิ่งสู้ฟ้าหรือดิ่งพสุธาลงไปในห้วงเหว ดังนั้นหากได้ผู้นำดีประเทศก็สามารถพัฒนาต่อเนื่องไปได้แต่ยังไงก็ตามผู้นำมีทั้งที่ดีและก็ไม่ดีส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับบุญกรรมของประเทศแล้วก็ทัศนคติแง่คิดมุมมองของคนในบ้านเมืองที่ช่วยกันเลือกขึ้นมาตามระบอบเสรีนิยมประชาธิปไตยที่ว่ากันว่าดีที่สุด(ในตอนนี้) อียิปต์โบราณมีผู้น้ำที่เก่งมากๆ หลายต่อหลายพระองค์ได้ฟาโรห์เก่งๆ มาบริหารก็มากมายรวมไปถึงผู้นำจากประเทศจากยุโรปทั้งกรีกและโรมัน แม้ในตอนหลังที่อาณาจักรจากทางตะวันออกทั้งเปอร์เชียและออตโตมันมาปกครองนับตั้งแต่สมัยของซาลาฮ์ดิน(Salahadin)ผู้ที่นำกองกำลังทหารมุสลิมขับนับรบครูเสดออกจากเยรูซาเล็มได้สำเร็จจนมาถึงผู้นำที่มีเชื้อสายออตโตมันเช่นมูฮัมหมัดอาลี(Muhammad Ali of Egypt)ซึ่งท่านผู้นี้ถือว่ามีพระคุณกับประเทศอียิปต์ในยุคหลังเป็นอย่างมากเรียกได้ว่ารากฐานหลายๆ อย่างเช่นระบบการศึกษา ศาสนา ศิลปะ ระบบโครงสร้างเศรษฐกิจและการทหาร

แม้ว่าการขึ้นมาเป็นผู้นำของมูฮัมหมัดอาลีจะค่อนข้างโหดร้ายคือเรียกผู้ที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามของตนมาพบในมัสยิดที่สวยและใหญ่มากๆ ที่เค้าได้สร้างไว้(ปัจจุบัน Muhammad ali Mosgue เป็นหนึ่งจุดที่นักท่องเที่ยวต้องมาเยี่ยมยมและศพของมูฮัมหมัดอาลีก็ถูกบรรจุไว้ที่มัสยิดแห่งนี้ด้วยเช่นกัน ปัจจุบันตั้งอยู่บนเนินเขาในเขต old cairo) เมื่อทุกคนมาพร้อมกันหมดแล้วมูฮัมหมัดอาลีก็ได้สังหารทุกคนจนสิ้นชีวิตในมัสยิดนั้นนั่นเอง เมื่อทุกคนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับตนถูกำจัดหมดแล้วมูฮัมหมัดอาลีก็เริ่มปฏิรูปประเทศมากระทั่งทุกวันนี้ ถามคนอียิปต์หลายๆ ท่านว่าผู้นำท่านใดที่ตัวเค้าคิดว่ามีพระคุณต่อประเทศอียิปต์มากๆ เกือบทุกคนมักจะยกให้มูฮัมหมัดอาลีเป็นบุคคลคนนั้นด้วยเหตุผลดังที่กล่าวไว้แล้วในตอนต้น สาเหตุอีกอย่างก็น่าจะเป็นเพราะว่าอยู่ในยุคที่ผ่านมาไม่นานมากประกอบกับสิ่งที่ทำให้เป็นประเทศอียิปต์อยู่ในทุกวันนี้ได้

จำเห็นได้ว่าผู้นำที่เป็นที่จดจำของผู้คนก็คือผู้นำที่สร้างความมั่นคงเป็นปึกแผ่นให้กับประเทศในด้านต่างๆ นั่นเองไม่ใช่ผู้นำที่พูดเก่งมีชั้นเชิงการเมืองเยี่ยมแต่ว่าไม่รู้วิธีบริหารบ้านเมืองให้ประชาชนพอกินพอใช้ได้อยู่กันอย่างสงบสุขในแนวทางแห่งสันติวิธี ผู้นำท่านต่างๆ ที่ผ่านมาของอียิปต์หลายต่อหลายท่านเป็นตัวอย่างที่ดีในการสร้างโอกาสให้กับตนซึ่งเป็นหนึ่งในคุณสมบัติของผู้นำ การศึกษาเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้เกิดผู้นำแบบนี้ขึ้นมาได้แต่ไม่ใช่การศึกษาที่สอนแต่ให้รู้ การศึกษาที่ว่านี้คือการสอนให้คนได้รู้จักพัฒนาตนเองให้ก้าวหน้าทั้งทางความรู้และการดำเนินชีวิตซึ่งเรื่องของครอบครัวก็ต้องเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเนื่องจากเป็นผู้กำหนดทิศทางของความคิดให้เกิดกับตัวของผู้ที่ได้รับการศึกษา ตอนนี้ประเทศอียิปต์ประสบปัญหาในด้านการศึกษาเพราะจำนวนผู้ที่ไม่รู้หนังสือมีกว่า 30% จากจำนวนประชากรของประเทศทั้งหมดซึ่งตรงนี้จะเห็นได้ว่าผู้นำที่บริหารบ้านเมืองอยู่ในปัจจุบันไม่ค่อยได้เอาใจใส่กับเรื่องของการศึกษาเลย โรงเรียนของรัฐกับโรงเรียนของเอกชนผลิตเด็กออกมามีคุณภาพต่างกันแทบจะเรียกได้ว่าฟ้ากับเหว ได้เจอเด็กจากโรงเรียนทั้งสองแบบนี้รู้สึกอนาถใจกับชะตากรรมของเด็กที่โอกาสด้อยกว่าเพราะว่ามันช่างต่างกันเหลือเกินต่างกันกระทั่งแววตาและท่าทางการแสดงออกที่ปรากฏให้เห็น แม้เด็กที่จบจากมหาวิทยาลัยก็ไม่รู้จักที่จะสร้างโอกาสให้เกิดขึ้นกับตนเอง มักจะรอเรียกร้องให้มีผู้คนมาช่วยเหลือตนทั้งๆ ที่ตนเองนั้นแหละที่สำคัญที่สุด มีจำนวนนักศึกษาที่จบการศึกษาออกมาเป็นจำนวนมากแต่ก็ตกงานกันเป็นจำนวนมากเช่นกัน หลายๆ คนเลือกที่จะส่งเสริมลูกหลานของตนให้ศึกษาในด้านที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวเพราะ 11% ของ GDP อียิปต์มาจากการท่องเที่ยวนอกนั้นก็เป็นเรื่องของการเกษตรและสิ่งทอ ดังนั้นสาขาวิชาหลักๆ ที่เด่นๆ ของประเทศอื่นๆ ตกงานกันเป็นแถบแม้ว่าคุณภาพของคนจะไม่ด้อยกว่าประเทศอื่นก็ตามแต่กลุ่มบุคคลเหล่านี้ก็ไม่ยอมที่จะสร้างโอกาสให้เกิดแก่ตน ตรงนี้มีบุคคลท่านนึงซึ่งไม่รอโอกาสหลังจากที่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยไคโรแล้วได้ออกสร้างโอกาสให้เกิดกับตนในภายนอกประเทศเพราะสภาพภายในประเทศไม่เอื้อจนได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพในที่สุด บุคคลท่านนี้ชื่อว่า Muhamed ElBaradei ซึ่งเท่าที่เห็นประเทศที่ไม่ค่อยมีการพัฒนาทางด้านความคิดซักเท่าบุคคลเก่งๆ มักจะออกไปสร้างตนเองนอกประเทศกันที่บ้านเราเรียกว่าสมองไหลเพราะโอกาสในประเทศของตนเองนั้นไม่เอื้อเนื่องจากกลุ่มบุคคลหลายๆ กลุ่มเกรงจะเสียผลประโยชน์นั่นเอง

มาถึงวันนี้เกิดเหตุการณ์จราจลขึ้นในประเทศอียิปต์เพราะประชาชนโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ๆ เริ่มเห็นว่าโอกาสของตนเองนั้นไม่มีทั้งในด้านเศรษฐกิจ การศึกษาและสังคม อันมีสาเหตุมาจากกลุ่มคนที่มีอำนาจอยู่ในบ้านเมืองในขณะนี้ ยิ่งผลการเลือกตั้งเมื่อต้นปีที่ผ่านมาออกมาแบบขัดกับความรู้สึกทำให้กลุ่มคนเหล่านี้อดทนกับสิ่งที่อัดอั้นอยู่ในใจของตนมาเป็นเวลาช้านานกว่าสามสิบปีจนระเบิดออกมาในที่สุด ซึ่งเหตุการณ์นี้ทำให้บุคคลท่านหนึ่งออกมาร่วมเดินประท้วงกับชาวอียิปต์ด้วยเช่นกัน ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน Muhamed ElBaradei นั่นเองที่กลับบ้านเกิดของตนมาเดินอยู่แนวหน้าร่วมกับพี่น้องชาวอียิปต์ผู้รักชาติอยากจะให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในบ้านเมืองซึ่งเสียหายจากการบริหารของรัฐบาลสร้างภาพมานานกว่าสามสิบปี ถ้าใครได้ไปกรุงไคโรมาจะเห็นถนนที่ออกจากสนามบินมาจนถึงเขตที่พักของชาวต่างชาตินั้นสวยงามมาก แต่ตอนที่ผมไปเผอิญอยากได้รสชาติของชาวบ้านชาวเมืองเค้าจริงๆ เลยเลือกพักในกลางกรุงของเค้าเลยในเขตที่คนของเค้าอยู่กันจริงๆ ทำให้ได้ภาพที่น่าประทับใจกับบ้านนี้เมืองนี้เยอะเลยครับ สภาพเมืองหลวงที่มีคนอยู่กันไม่มากมายแค่ 22 ล้านคนนั้นบนถนนหนทางในชั่งโมงเร่งด่วนนี่สุดๆ

สรุป: ประเทศอียิปต์นั้นเจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมากในยุคหลายพันปีก่อนเพราะได้ผู้นำที่มีความสามารถบริหารช่วยสร้างบ้านเมืองมีความเจริญรุ่งเรืองมีอาหารอุดมสมบูรณ์มาหลายๆ ต่อหลายท่านแต่สิ่งเหล่านั้นมันคืออดีต อดีตมันก็คืออดีตแต่ว่าสามารถใช้นำมาปรับปรุงแก้ไขหรือวางแผนรองรับสิ่งที่จะเกิดกับบ้านเมืองในปัจจุบันได้เช่นกันเพราะยังไงประวัติศาสตร์ก็มักจะล้อกับของเดิมอยู่แล้วถ้าบริหารบ้านเมืองดีประชาชนอิ่มหนำสามารถอยู่ได้ด้วยตัวของตนไม่ต้องพึ่งพาอาศัยใครเอาของมามอบหรือส่งกำลังใจให้รู้จักคำว่า"ตนเป็นที่พึ่งของตน" เมื่อนั้นบ้านเมืองแม้จะเจอวิกฤติแค่ไหนก็สามารถจะกลับพลิกฟื้นคืนกลับขึ้นมาเหมือนเดิมหรือแม้กระทั่งดีกว่าเดิมได้ในที่สุด ประเทศอียิปต์ขาดอยู่อย่างเดียว ขาดผู้นำที่คิดจะพัฒนาประเทศเหมือนกับฟาโรห์หลายๆ พระองค์และผู้นำที่สุดยอดอีกหลายๆ ท่านที่ประเทศเคยมีมา

ผู้นำสร้างภาพแม้จะดูดีพอช่วยให้กำลังใจอะไรได้บ้างในช่วงแรกแต่ถ้าเวลาผ่านไปก็ยังรู้จักแต่สร้างภาพฝันไม่ได้ทำความจริงให้ปรากฏเมื่อนั้นถ้าประชาชนอดรนทนไม่ไหวขึ้นมาสภาพบ้านเมืองก็คงจะเกิดจราจลเพราะกลุ่มคนที่โกรธแค้นนั้นสามารถจะทำอะไรก็ได้ไปตามอารมณ์ของตน คนเราบางคนเกิดมาเป็นผู้นำคนบางคนเกิดมาเป็นได้แค่เพียงที่ปรึกษาตัวเราเองต้องบอกตัวเราเองให้ได้ว่าเรามีความสามารถอยู่ในระดับไหนต้องรู้จักประเมินตัวเองให้ได้อย่าหลอกตัวเอง หลายท่านเป็นที่ปรึกษาที่สุดยอดแต่เป็นผู้นำที่สุดแย่คล้ายๆ กับกรณีของขงเบ้งในสามก๊กเพราะตอนที่เป็นที่ปรึกษาเปรียบเหมือนเป็นโค้ชไม่ได้ลงไปเล่นเองในสนาม มุมมองจะกว้างกว่าความกดดันก็จะน้อยกว่ากัปตันทีมที่วิ่งอยู่ในลาน เมื่อวันใดวันหนึ่งต้องลงไปวิ่งเองแล้วก็จะรู้ว่า ออ ความสามารถของเรามันดีเฉพาะเป็นคนวางแผนไม่ใช่ตัวเล่น แต่พอวันนั้นมาถึงก็อาจจะสายไปเสียแล้วถูกฝั่งตรงข้ามอัดเอาซะยับจนรู้สึกขยาดเวทีทำให้บ้านเมืองเสียที่ปรึกษาดีๆ ไปมากๆ ต่อมาด้วยเหตุนี้ก็มีเหมือนกัน ดังนั้นต้อง"หมั่นประเมินตัวเองให้บ่อยๆ" มีความจำเป็นต้องทำอยู่ทุกวันแล้วก็ให้โอกาสคนที่เก่งกว่าดีกว่า ชื่นชมผู้ที่มีความสามารถแล้วเราจะได้พวกแม้จะไม่ได้เป็นหัวหน้าเค้าแต่ก็สามารถทำให้เค้ามาช่วยเราได้ในตอนที่ต้องการ "ทำงานกันเป็นทีมช่วยกันคิดแบ่งกันทำ"แบบนี้ประเทศชาติบ้านเมืองจะเจริญก้าวหน้าได้ในที่สุด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ติดตาม