วันพุธที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

เป็ดสีและไมตรีในใจ

นึกไงไม่ทราบพอนั่งสบายๆ แล้วนึกถึงสมัยเด็กตอน ป.3 ป.4 ที่ได้ไปตลาดกับแม่แล้วก็เห็นอาแปะเค้าเอาเป็ดเป็นสีๆ มาขาย มีทั้งสีฟ้า สีเขียว สีแดง ให้เลือกได้ตามชอบใจ พอเห็นปุ๊บก็ขอตังค์แม่ซื้อมาสามสี่ตัวเอาไว้เลี้ยงเป็น interactive toy หรือของเล่นที่มีชีวิตสำหรับเด็กบ้านนอก

ตกเย็นเลิกโรงเรียนก็มานั่งดูมันเดินไม่ก็พามันไปลงว่ายน้ำในคูหลังบ้านที่ติดกับผืนนาขนาดใหญ่ เราก็ไม่รู้หรอกว่าแค่เอาเป็ดมาเลี้ยงมันจะให้อะไรกับชีวิตได้บ้าง พอมาวันนึงได้มานึกถึงก็อยากจะกราบขอบคุณแม่จริงๆ ที่อุตส่าห์จ่ายเงินซื้อเป็ดสีพวกนี้ให้ แม้ว่าราคามันจะแพงกว่าเป็ดที่ขายตามร้านการเกษตรทั่วไปแต่คิดว่าแม่คงเห็นประโยชน์ของมันที่มากกว่าเป็นของเล่นให้ลูกเท่านั้น นึกไปนึกมาก็คิดว่าถ้าไม่ได้เป็ดที่แม่ซื้อให้นิสัยรักและเอ็นดูสัตว์ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้คงจะไม่มี

หลังบ้านที่บ้านนอกในสมัยโน้นเป็นเหมือนสวนสัตว์ขนาดเล็กมีไก่ กระต่าย เป็ด ห่าน ไก่ต๊อก หมู และก็สุนัขอีกสองสามตัวให้เอาไว้ดูเล่นเวลาเลิกเรียน จะว่าไปแทบทุกบ้านก็มีสภาพไม่ค่อยต่างกันเท่าไหร่ในสังคมการเกษตรที่ต่างก็ต้องพึ่งพาอาศัยกันแม้เราเองจะไม่ได้เกิดในครอบครัวเกษตรกรแต่ว่าพื้นฐานของสังคมก็เอื้อให้เราได้เลี้ยงสัตว์มีโอกาสได้ interact กับสัตว์เลี้ยงของเราโดยตรง ได้เห็นมันเกิด ฟักออกจากไข่ ท้อง ออกลูก บิน จิก ตี กัด หรือแม้กระทั่งผสมพันธุ์ เป็นวงจรชีวิตที่ให้เราได้เรียนรู้การพึ่งพาอาศัยและมีน้ำใจไมตรี ทำให้ใจของเราอ่อนโยนแต่สภาพจิตใจก็มาเปลี่ยนไปตามสภาพสังคมในภายหลัง แต่อย่างน้อยน้ำใจไมตรีที่ยังพอมีอยู่ในใจอันแม่และครอบครัวหมู่ญาติเพื่อนฝูงและคนรอบข้างรวมไปถึงเป็ดสีเหล่านั้นได้มอบไว้ให้ก็ยังคงอยู่..

วันเวลาผ่านไปก็ยิ่งนึกย้อนไปในวันเก่าๆ บ่อยขึ้น เอ.. หรือเราจะแก่ก่อนวัยเนี่ย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ติดตาม