วันอังคารที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

Rock n Rolla งานแนวๆ(อีกชิ้น)ของกายริทชี่

ผู้กำกับ: Guy Ritchie
บท: Guy Ritchie
นักแสดง: Gerard Butler, Mark Strong, Tom Wilkinson, Toby Kebbell etc..

ไม่รู้ว่าจะมีใครชอบงานของกายริทชี่แบบผมบ้างหรือเปล่าผมว่าหนังของแกแนวดีเป็นแนวที่แบบว่าอั๊วะจะเอาแบบนี้ลื้อมีปัญหาป้ะ ดูๆไปหากเป็นผู้สูงอายุอาจจะอ้วกก่อนดูจบเพราะว่าตัดสลับภาพและเหตุการณ์แบบหวือหวาผสมจังหวะสโลว์ของภาพที่เป็นเอกลักษณ์มาก อีกอย่างที่น่าจดจำสำหรับหนังของตาริทชี่นี่ก็คือเพลงประกอบที่ใช้เพลงในช่วงปี 70-80 เป็นแกนนำฟังแล้วมันดิบและถึงอารมณ์มากๆ การเขียนบทของเค้าก็จะเน้นแบบว่าเล่าเรื่องอะไรก็ได้สี่ห้าเหตุการณ์ที่ไม่ค่อยจะมีสาระเต็มไปด้วยความรุนแรงพร้อมกับประชดประชันหยิกแกมตบเป็นระยะๆและก็ไม่ได้เกี่ยวเนื่องอะไรกันเลยให้เรารับรู้ จากนั้นก็จะดึงเข้ามาผูกกันแล้วนำไปขมวดปมให้เจ็บกึ๋นกันเล็กๆในตอนจบให้สะใจพองาม

สำหรับเรื่องนี้ก็เช่นกันถือว่ากายริทชี่ก็ยังรักษาเอกลักษณ์ไว้เป็นอย่างดี หนังเล่าถึงเลนนี่โคลหัวหน้ามาเฟียที่มีศิลปะในการใช้คนให้ทำในสิ่งที่เค้าต้องการอยู่เสมอโดยมีอาร์ชี่มือขวาที่ซื่อสัตย์เป็นตัวตามงานและเก็บงานและมี The Wild bunch กลุ่มกวนโอ๊ยที่ทำงานสกปรกผ่านอาร์ชี่ไปหาเลนนี่อีกต่อ เมื่อเหตุการณ์นำให้เลนนี่,อาร์ชี่และพวกต้องเข้าไปพัวพันกับเศรษฐีนักพัฒนาที่ดินอดีตมาเฟียรัสเซียเจ้าของทีมบอลชื่อดัง(สนามสีแดงๆ)พร้อมสมุนอดีตทหารโดยมีขี้ยานักร้องเพลงร็อคเอนโรลเป็นตัวเชื่อมเรื่องมันก็เลยวุ่นวายเต็มไปด้วยอารมณ์ขันร้ายๆและความรุนแรงที่ถูกปล่อยเข้ามาเป็นระยะจนนำไปสู่จุดไคลแม็กซ์ที่จบแบบเจ็บกึ๋นเช่นเดิม

ทีมแคสติ้งของกายริทชี่นี่ขอบอกว่าไม่ธรรมดาแต่ละคนที่สรรหามารับบทนั้นแสดงได้เป็นธรรมชาติมากและก็มีอย่างนึงที่ขาดไม่ได้ก็คือต้องกวนโอ๊ยด้วยถึงจะมีบุญได้เล่นหนังของแก(ฮ่า..) สำหรับเรื่องนี้ตัวที่เด่นที่สุดของยกให้ Mark Strong ที่รับบทเป็นอาร์ชี่ที่แสดงได้ถึงกึ๋นมากหากใครเคยดูเรื่อง BODY OF LIES คงจะจำหัวหน้าหน่วยข่าวกรองชาวจอร์แดนที่มาดดีสุดๆได้คนนั้นก็คือนาย Strong นี่แหละ สำหรับนักแสดงตัวอื่นๆก็แสดงได้กวนโอ๊ยได้ตามมาตรฐานของกายริทชี่ทุกคน

หนังของกายริทชี่แม้ว่าจะไม่มีสาระอะไรมากมายนักแต่ก็ยากที่จะลืม แม้ว่าหนังแบบ twist ending หรือจบแบบหักมุมจะไม่เหมาะสำหรับการดูหลายๆรอบเพราะว่าจุดสุดยอดของมันเราได้รู้แล้วแต่ว่าหนังของกายริทชี่จะมีมุมอะไรเล็กๆน้อยๆที่บางที่เรามักจะมองข้ามไปเนื่องจากว่าต้องมานั่งจับรายละเอียดที่ถูกยัดเยียดมาให้แบบเยอะมากๆ แต่พอได้กลับมาดูซ้ำก็จะทำให้เราได้รู้ว่าผู้กำกับชาวอังกฤษที่เจ๋งพอจะเป็นสามีของมาดอนน่าได้นั้นมีอะไรดีๆและครีเอทีฟมากๆอยู่ในหัวของแกอยู่เยอะพอดูเลยครับ

ข้อคิดที่ได้จากเรื่อง: ไม่ว่าเราจะทำสิ่งใดลงไปแม้ว่ามันจะล่วงเลยไปนานจนกลายเป็นอดีตไปแล้วก็ตามแต่สุดท้ายผลของส่ิงที่เราได้กระทำลงไปนั้นก็จะย้อนกลับมาหาเราอยู่เสมอไม่ว่าจะเป็นส่ิงที่ดีหรือไม่ดี ดังนั้นเลือกทำแต่สิ่งดีๆกันดีกว่าครับจะได้ไม่ต้องเสียใจกับสิ่งที่ไม่มีวันจะย้อนกลับมาให้เราได้แก้ไขได้อีก อย่างที่เคยบอกไว้ครับว่า"คนเราไม่มีคำว่าแก้ตัว มีแต่ทำใหม่ให้ดีกว่าเดิมเท่านั้น" อีกอย่างการโกหกหลอกลวงนั้นอย่าได้ทำเป็นอันขาดโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนใกล้ตัว เพราะยิ่งอยู่ใกล้เรามากหรือรักเรามากหากจับโกหกของเราได้เมื่อไหร่ผลกระทบที่มีต่อจิตใจของเค้าจะรุนแรงมากกว่าถูกคนอื่นโกหกหลายร้อยหลายพันเท่า ดังนั้นตอบแทนความดีให้คนที่อยู่กับเราด้วยความจริงใจและซื่อตรงจะดีที่สุด(เผื่อวันหลังขออนุมัติงบไปซื้อของเล่นใหม่ๆจะได้ง่ายๆ ฮ่า..)

ขอให้มีความสุขกับการดูหนังและฟังเพลงครับทุกท่าน Rolling Eyes

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ติดตาม